การล้างจมูกและเทคนิคการล้างจมูก





Q : การล้างจมูกคืออะไร?

A : การล้างจมูกเป็นการทำความสะอาดโพรงจมูกและ/หรือไซนัส

       การล้างจมูกเป็นการทำความสะอาดโพรงจมูกและ/หรือไซนัส โดยชะล้างเอาน้ำมูก หนอง สิ่งสกปรกในโพรงจมูก หรือโพรงหลังจมูก และ/หรือ ไซนัส ซึ่งเกิดจากการอักเสบออก ด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้โพรงจมูกและหรือไซนัสโล่ง ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก คัน จาม น้ำมูกไหล (ทั้งที่ไหลออกมาข้างนอก และไหลลงคอ) แสบจมูก ปวดจมูก หรือปวดบริเวณไซนัส รวมทั้งการมีกลิ่นเหม็นในโพรงจมูกและ/หรือ ไซนัส

 

Q : การล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร?
A : ช่วยล้างน้ำมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เองทำให้โพรงจมูกและ/หรือไซนัสสะอาด
- ช่วยให้อาการหวัดเรื้อรัง (คัดจมูก คัน จาม น้ำมูกไหล แสบจมูก ปวดจมูก) ดีขึ้น และลดน้ำมูกหรือเสมหะที่ไหลลงคอ
- ช่วยระบายหนองจากไซนัสได้ดีขึ้น โดยลดน้ำมูกหรือหนองที่อุดอยู่บริเวณรูเปิดของโพรงไซนัส ในโพรงจมูก ทำให้อาการไซนัสอักเสบหายเร็วขึ้น
- ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูก และไซนัสขึ้นไปหูชั้นกลางหรือลงไปสู่ปอด
- ช่วยลดจำนวนเชื้อโรค มลพิษ สารก่อภูมิแพ้ สิ่งระคายเคือง และ สารที่เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูก และ/หรือ ไซนัส
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุจมูก
- ช่วยบรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ถ้าใช้น้ำเกลืออุ่นล้างจมูก โดยทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวม ทำให้หายใจโล่งขึ้น
- ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง และลดการอักเสบในจมูก
- การล้างจมูกก่อนการพ่นยาหรือหยอดยาในจมูก (ในกรณีแพทย์สั่งยาพ่นจมูกหรือยาหยอดจมูกให้ใช้) จะทำให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้นออกฤทธิ์ได้ดี มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
- ช่วยชะล้างคราบสะเก็ดแข็งของเยื่อบุจมูก และ/หรือไซนัส หลังการผ่าตัด หรือหลังการฉายแสงออก ทำให้แผลในโพรงจมูก และไซนัสหายเร็วขึ้น ป้องกันการเกิดพังผืดซึ่งทำให้รูจมูกหรือไซนัสตีบแคบ
- ช่วยเพิ่มการทำงานของขนกวัดในจมูก ซึ่งทำหน้าที่พัดโบก กำจัดสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก
- ทำให้ลดปริมาณยาที่ใช้ในการรักษาโรคจมูกและ/ หรือไซนัสลงได้

 

Q : ควรล้างจมูกเมื่อใด?
A : เมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นค้างอยู่ในโพรงจมูกหรือไซนัส
- เมื่อมีอาการคัดแน่นจมูก
- เมื่อหายใจเอาฝุ่นควัน หรือสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในจมูก
- ก่อนใช้ยาพ่นจมูก หรือยาหยอดจมูก
- เมื่อมีเสมหะในลำคอ ซึ่งเกิดจากการอักเสบในโพรงจมูกหรือไซนัส
- หลังผ่าตัด หรือหลังการฉายแสงบริเวณจมูก หรือไซนัส
- มีกลิ่นเหม็นที่เกิดจากโรคจมูก และ/หรือไซนัส

 

Q : ใครบ้างที่ควรล้างจมูก?
A : ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ หรือ “หวัด
- ผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ
- ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ “แพ้อากาศ”
- ผู้ป่วยโรคริดสีดวงจมูก
- ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบเหี่ยวฝ่อ
- ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดจมูกและ/หรือไซนัส
- ผู้ป่วยที่ได้รับการฉายแสงบริเวณจมูกและ/หรือไซนัส
  ดังนั้นการล้างจมูกจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีในการรักษาโรคจมูก และไซนัสทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

 

เทคนิคการล้างจมูก
1. ควรใช้น้ำอุ่นมากกว่าน้ำอุณหภูมิห้องในการล้างจมูก

เพราะการใช้น้ำเกลือที่มีอุณหภูมิห้อง หรือเย็น ซึ่งไม่เหมาะกับเยื่อบุจมูกนั้น อาจทำให้เกิดอาการคัดจมูกหลังการล้างได้ ในทางตรงกันข้าม การใช้น้ำเกลืออุ่นล้างจมูก จะทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวม ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูกได้ ในกรณีที่อยากทำน้ำเกลือไว้ล้างเอง อาจทำได้โดยต้มน้ำประปาที่มีปริมาตร 750 CC ในหม้อต้มให้เดือด และใส่เกลือแกงหรือเกลือป่นที่ใช้ปรุงอาหารลงไป 1 ช้อนชา แล้วคนให้เข้ากันหลังจากนั้นจึงปิดไฟ และตั้งทิ้งไว้ให้อุ่น (น้ำเกลือที่เตรียมเองควรใช้ให้หมดภายใน 1วัน) และควรทดสอบน้ำเกลือที่หลังมือก่อนการล้างจมูกว่าไม่ร้อนจนเกินไป 

2. ควรล้างจมูกบนโต๊ะโดยหาภาชนะมารองรับน้ำเกลือ
หลังล้าง ที่จะออกมาทางจมูก และปาก เช่น ชาม หรือกะละมัง หรือล้างในอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ

        3. ใช้อุปกรณ์ขวดล้างจมูก 
        ลูกยางแดง หรือกระบอกฉีดยา โดยเทน้ำเกลือที่ผสมไว้ใส่ขวดล้างจมูก หรือดูดน้ำเกลือที่ผสมในขนาดน้อยๆก่อนเช่น ประมาณ
        10-15 ซีซี ในผู้ใหญ่ หรือประมาณ 5 ซีซี ในเด็ก

        4. ผู้ที่จะล้างจมูกควรนั่งโน้มตัวไปข้างหน้า และก้มหน้าเล็กน้อย
        อยู่เหนือภาชนะรองรับน้ำเกลือหลังจากที่ล้างแล้ว ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ หรืออยู่เหนืออ่างล้างหน้า ควรเริ่มล้างจมูกข้างที่โล่งกว่า หรือ คัดน้อยกว่าก่อน

        5. ควรนำปลายของขวดล้างจมูก
         ลูกยางแดง หรือกระบอกฉีดยา ใส่เข้าไปในจมูกข้างที่จะล้างเล็กน้อย อ้าปากไว้ แล้วหายใจเข้าเต็มที่ และกลั้นหายใจไว้

        6. บีบอุปกรณ์ขวดล้างจมูก
ลูกยางแดง หรือกระบอกฉีดยา ที่ใช้สำหรับล้างจมูก เบาๆ ให้น้ำเกลือไหลเข้าไปในจมูกช้าๆ ซึ่งน้ำเกลือก็จะผ่านเข้าไปในโพรงจมูกข้างหนึ่ง แล้วไปกระทบกับ ผนังของโพรงหลังจมูก แล้วผ่านเข้าไปในโพรงจมูกอีกข้างหนึ่ง (โพรงจมูกซ้ายและขวามีทางเชื่อมต่อกันทางด้านหลัง) แล้วออกมาทางรูจมูกอีกข้างหนึ่ง หลังจากที่น้ำเกลือส่วนใหญ่ไหลออกมาจากจมูก หรือ ปากแล้ว ให้หายใจตามปกติได้ ข้อสำคัญคือ ระหว่างที่ดันน้ำเกลือเข้าไป ในโพรงจมูกจะต้องกลั้นหายใจไว้ มิฉะนั้นอาจหายใจเอาน้ำเกลือลงไปยังกล่องเสียง และหลอดลมทำให้เกิดการสำลักได้

        7.หลังจากที่คุ้นเคยกับการล้างจมูกและรู้จังหวะของการหายใจแล้ว

จึงค่อยๆเพิ่มปริมาณของน้ำเกลือในการล้างแต่ละครั้งขึ้นเรื่อยๆ การล้างจมูกให้ได้ประสิทธิภาพในการชำระล้างโพรงจมูกให้สะอาดนั้น ควรจะดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกทุกทิศทาง เช่น ทางขวา ซ้าย ด้านบนและล่างของโพรงจมูก เพื่อชะล้างน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกในโพรงจมูกออกได้ทั่วทั้งโพรงจมูก และออกมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หลังจากฉีดล้างโพรงจมูกข้างใดข้างหนึ่ง ควรจะมีน้ำเกลือไหลออกจากโพรงจมูกอีกข้าง ถึงจะเป็นการล้างที่ถูกต้องคือ มีปริมาณของน้ำเกลือที่ใช้ล้างในแต่ละครั้ง และมีความแรงที่พอเหมาะของน้ำเกลือที่ฉีดเข้าไป ควรล้างโพรงจมูกสลับข้างไปเรื่อยๆ เช่น หลังล้างข้างซ้าย ก็ควรย้ายไปล้างข้างขวา แล้วสลับกันไปมา

 8. การล้างจมูกแต่ละครั้งนั้นควรล้างจนกว่าจะรู้สึกว่าจมูกโล่ง
ไม่มีน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกอะไรคั่งค้างในจมูก และ ควรล้างจนกว่าน้ำเกลือที่ออกมาจากจมูกและปากจะใสเหมือนกับน้ำเกลือที่ฉีดเข้าไปในโพรงจมูก จึงจะหยุดการล้างได้

        9. หลังจากล้างเสร็จ สามารถสั่งน้ำมูก หรือน้ำเกลือที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูก

และบ้วนน้ำเกลือและน้ำมูกส่วนที่ไหลลงคอรวมทั้งเสมหะในคอออกมาได้ การล้างจมูกอย่างถูกต้องบ่อยๆ จะไม่เกิดโทษหรืออันตรายต่อจมูก หรือร่างกาย ในทางตรงกันข้ามจะมีประโยชน์โดยช่วยล้างน้ำมูกสิ่งสกปรกที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกออก ดังนั้นในช่วงวันหยุด ถ้าล้างเพิ่มได้ ก็ควรจะทำ ควรล้างจมูกก่อนการพ่นยาในจมูกเสมอ แนะนำให้ล้างจมูกก่อนเวลารับประทานอาหาร (ขณะท้องว่าง) หรือหลังรับประทานอาหารแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อป้องกันการอาเจียนหรือสำลัก

10. หลังล้างจมูกเสร็จทุกครั้ง ควรล้างอุปกรณ์
ที่ใช้ล้างจมูกให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือ น้ำยาล้างจาน แล้วล้างด้วยน้ำประปาจนสะอาด (ในกรณีที่ใช้ลูกยางแดงหรือกระบอกฉีดยาที่ทำจากแก้ว หลังจากล้างแล้วควรนำมาต้มกับน้ำเดือด ประมาณ 5 นาที) แล้วผึ่งให้แห้ง




การล้างจมูกสำคัญอย่างไร น้องฮาชชิมีคำตอบ
การล้างจมูกสำคัญอย่างไร น้องฮาชชิมีคำตอบ
4 สิ่งห้ามลูกสัมผัสเพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้
สวัสดีครับฮาชชิมากลับมาพร้อมความรู้ดีๆเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจเหมือนเคย ครั้งนี้เกี่ยวกับเรื่อง 4 สิ่งที่คุณแม่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกรักไปสัมผัส เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ มีอะไรบ้างไปดูกันครับ
ข้อแตกต่างของการล้างจมูกและใช้น้ำเกลือแบบพ่นจมูก
บทความวิชาการเรื่อง "การล้างจมูก กับการใช้น้ำเกลือพ่นจมูกมีข้อแตกต่างอย่างไร" และ "อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น จากการล้างจมูก" โดย รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน สาขาวิชาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้ ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล